วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

วิธีทำไข่เค็ม กินเองง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยสูตรดองเกลือ

วิธีทำไข่เค็ม กินเองง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยสูตรดองเกลือ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         ไข่เค็ม เป็นอาหารที่เกิดขึ้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านในการถนอมอาหารของคนไทย เพื่อที่จะเก็บไข่เป็ดไว้กินได้นาน ๆ เลยจับไปดองกับน้ำเกลือ หรือสูตรอื่น ๆ ตามแต่ละพื้นที่ จนกลายมาเป็นไข่เค็มสุดอร่อย และถือเป็นอาหารที่หลาย ๆ บ้านมักจะมีติดเอาไว้ จะทำไข่เค็มต้ม ไข่เค็มดาว หรือจะยำแซบ ๆ กินกับข้าวต้มก็อร่อย แต่คงจะดีถ้าเรามาทำไข่เค็มกินเองได้

         ถึงแม้ว่าไข่เค็มจะสามารถหาซื้อมารับประทานได้ง่าย ๆ แต่หากวันหนึ่งวันใดคุณเกิดได้รับไข่เป็ดสด ๆ จากฟาร์มจำนวนมากมาเป็นของฝาก แล้วไม่รู้จะนำไปทำเป็นเมนูอะไรได้อีก นอกจากต้ม เจียว ตุ๋น ทอด หรือคุณอยากจะวัดฝีมือความเป็นพ่อบ้านแม่บ้านด้วยการทำไข่เค็มกินเองล่ะก็ วันนี้เราก็มีวิธีทำไข่เค็มเองแบบง่าย ๆ มาฝาก เป็นสูตรไข่เค็มดองในน้ำเกลือ แค่เพียง 1-2 อาทิตย์ ก็ได้ไข่เค็มฝีมือตัวเองไว้กินแล้ว ถ้าอยากรู้แล้วว่า ไข่เค็มทำเองนี้จะมีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยจ้า


สิ่งที่ต้องเตรียม

           ไข่เป็ดดิบ 10 ฟอง

           ภาชนะสำหรับดองไข่ (ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับเกลือ เช่น โหลแก้ว แก้วพลาสติก กะละมัง เครื่องเคลือบดินเผา) 

           เกลือ 1 ถ้วย

           น้ำสำหรับต้มน้ำเกลือ 4 ถ้วย (หรือ 1 ลิตร)


วิธีทำ 

         1. ล้างไข่เป็ดให้สะอาด สะเด็ดน้ำจนแห้งสนิท ใส่ลงในโหลแก้ว เตรียมไว้

         2. ทำน้ำเกลือสำหรับดองไข่ โดยใส่เกลือกับน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด และคนให้เกลือละลายจนหมด ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

         3. เทน้ำเกลือที่เย็นแล้วลงในโหลไข่จนท่วมไข่ จากนั้นใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำวางทับลงไปให้ไข่เป็ดจมอยู่ใต้น้ำ ตลอดเวลา ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม นานประมาณ 2-3 อาทิตย์ สำหรับทำไข่ดาว เก็บไว้นานประมาณ 2 อาทิตย์ สำหรับทำไข่ต้ม เก็บไว้นานประมาณ 3 อาทิตย์


  ทำอย่างไรให้ไข่แดงเค็มเป็นน้ำมัน ?

           หลายคนชอบกินไข่เค็มที่มีไข่แดงเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ ออกมา เพราะทั้งมัน ทั้งอร่อย เทคนิคก็คือ หลังจากที่พักน้ำเกลือจนเย็นสนิทแล้ว ให้เติมเหล้าขาวลงไปในน้ำเกลือด้วยเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน แล้วเทใส่ลงในโหล จะทำให้ไข่แดงเค็มที่ได้ก็จะเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ น่ากินนั่นเองค่ะ


  วิธีต้มไข่เค็มให้อร่อย

           การที่จะต้มไข่เค็มให้อร่อยนั้น มีเคล็ดลับอยู่ที่ "สารส้ม" ทำได้โดยใส่น้ำลงในหม้อ ใส่สารส้ม 1 ก้อน หรือสารส้มป่นประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยไข่ไก่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มจนเดือด นานประมาณ 8-10 นาที ก็จะได้ไข่เค็มต้มสุดอร่อยไว้กินแล้ว

วิธีต้มน้ำสต๊อกให้ใส 

มาลองทำน้ำสต๊อกแบบต่างๆให้ใส ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ เทคนิคการทำน้ำสต๊อกให้ใส , วิธีการกรองน้ำสต๊อก , วิธีเก็บน้ำสต๊อกให้ใช้ได้นาน


วิธีต้มน้ำสต๊อก

1. ให้ใช้น้ำเย็น ในการต้มน้ำสต๊อก โดยใส่กระดูกพร้อมกับน้ำแล้วค่อยเอาขึ้นตั้งไฟ รับรองได้น้ำสต๊อกใส
2. ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อนในช่วงแรกๆ เมื่อเดือดให้ช้อนฟองทิ้ง แล้วจึงใส่ผักและเครื่องต่างๆ แล้วค่อยหรี่ไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ
3.ล้างกระดูกให้สะอาด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหนัง ไขมัน เครื่องใน ควรแยกทิ้งให้หมด หรือลวกด้วยน้ำเดือดก่อน แล้วค่อยล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้ม จะทำให้ได้น้ำสต๊อกที่ใสขึ้น
4. น้ำสต๊อกที่เคี่ยวได้ที่ จะถือว่าเป็นน้ำสต๊อกชั้นดี เมื่อเย็นจัดจะมีลักษณะเป็นวุ้นๆ เหมือนเยลลี่

สูตรการทำน้ำสต๊อกแบบต่างๆ



วิธีกรองน้ำสต๊อก

ควรใช้ผ้าขาวบางรองก้นกระชอนเพื่อกรองน้ำสต๊อก อย่าบี้หรือคนเศษกระดูก จะทำให้น้ำสต๊อกที่ได้ขุ่น 



วิธีเก็บน้ำสต๊อกให้ใช้ได้นานๆ

ควรเก็บน้ำสต๊อกที่ได้ ใส่ถึงพลาสติกหรือขวดโหล ตามปริมาณที่จะใช้ในแต่ละครั้ง หรือใส่ในที่ทำน้ำแข็งแช่แข็งเก็บไว้ได้นาน เมื่อจะใช้ค่อยเอามาละลาย



                   การ์ดป๊อปอัพ
เพราะต้องทำป๊อปอัพเคมีส่งครู แต่พอมา SERCH หาวิธีทำดู กลับหายากมากมาย ก็เลยไปหาในหนังสือแทน พอทำเสร็จออกมาได้ เลยขอคัดลอกนำมาเผยแพร่ต่อแล้วกัน
 วิธีทำการ์ดป๊อปอัพ
อุปกรณ์
1.กระดาษโปสเตอร์สีต่างๆชนิดบาง สำหรับตกแต่ง
2.คัทเตอร์ กรรไกร แผ่นยางรองตัด
3.กาวแท่งชนิดหลอด หรือสเปรย์ เลือกใช้ตามสะดวก
4.กระดาษการ์ดหรือโปสเตอร์ชนิดหนา สำหรับทำการ์ด <<แนะนำ 180 แกรมนะจ๊ะ
5.อุปกรณ์เครื่องเขียน ได้แก่ ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด
6.ปากกา มาร์คเกอร์ สีเคมี สีอะครีลิก
วิธีทำ
1.พับครึ่งกระดาษโปสเตอร์บางให้สันอยู่ด้านบน แล้ววาดลวดลายลงบนกระดาษ กำหนดให้ลายอยู่กึ่งกลางกระดาษ (ลายคร่อมรอยพับให้รอยพับแบ่งลายเป็น 2 ซีกพอดีอ่ะ)
2.ตัดกระดาษตามลวดลายโดยเว้นบางส่วนไม่ต้องตัด (ดูภาพประกอบ<< เน้นๆคือตัดบนตัดล่าง)
3.ติดกระดาษสีตกแต่งให้ดูสวยงาม
4.นำแบบที่ทำเสร็จแล้วติดลงบนกระดาษการ์ด
(สามารถนำไปประยุกต์ทำลวดลายอื่นๆได้นะจ๊ะ  ทำให้มันอัพขึ้นมาก็แค่ตัดบนกับด้านล่างของรูปพอสมควรแล้ว ดันมันมาข้างหน้าพับครึ่งแล้วเปิดออกดู)
รูปนี้เป็นอีกแบบนึงนะ ไม่ใช่การ์ดเดียวกับด้านบน อ้างอิงจากหนังสือ "ความรู้คู่บ้านชุด ทำไว้ใช้เอง" สำนักพิมพ์บ้านและสวน

คำถามอยากจะถามว่ากระดาษสีเหลืองแปะที่กระดาษสีน้ำเงินใช่ไหมคะ
-ใช่จ้า แต่ส่วนที่ต้องการจะให้มันเด้งไม่ต้องทากาว
แล้วที่ 180 แกรมนี่หมายถึงกระดาษสีเหลืองหรือสีน้ำเงินคะ

-สีน้ำเงินเป็นเหมือนโครงน่ะ ให้มันแข็งๆก็180 แกรมจ้า ส่วนสีเหลืองถ้าบางก้จะดูเด้งแต่บางไปอาจดูยวบๆ
                                 การทำน้ำต่างๆกับโซดา
 น้ำมะนาวโซดา

          ก่อนที่จะไปสนุกกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีน้ำมะนาวโซดาเป็นส่วนผสม ลองมาดูน้ำมะนาวโซดาแบบพื้นฐานกันก่อนเลย ว่าที่เขาฮิตดื่มกันเนี่ยมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ส่วนผสม
            
           น้ำตาลทราย

           น้ำ

           น้ำมะนาวคั้น

           โซดา

           น้ำแข็ง

วิธีทำ
            
          1. ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้ 

          2. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และโซดา คนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม


สูตรมะนาวโซดา 10 วิธีทำน้ำมะนาวโซดาเครื่องดื่มล้างพิษ
2. น้ำผึ้งมะนาวโซดา
            
          น้ำผึ้งมะนาวโซดา น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่คุ้นเคย สำหรับคนที่ไม่สามารถดื่มโซดาเพียว ๆ ได้น่าจะเหมาะ มีขายให้เราได้ซื้อมาดื่มกันอยู่บ่อย ๆ รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ชุ่มคอดีเหลือเกิน แต่ใครที่อยากจะลองทำเองเพื่อให้มั่นใจว่า น้ำผึ้งที่ผสมลงไปนั้น แท้ 100% ก็ลงมือกันเลย

ส่วนผสม
            
           น้ำผึ้ง

           น้ำมะนาว

           โซดา

           น้ำแข็ง

           มะนาวฝานเป็นชิ้นบาง และใบสะระแหน่ สำหรับแต่ง

วิธีทำ

          ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ตามด้วยโซดาแช่เย็นจัด แต่งด้วยมะนาวฝาน และใบสะระแหน่ พร้อมดื่ม


สูตรมะนาวโซดา 10 วิธีทำน้ำมะนาวโซดาเครื่องดื่มล้างพิษ
ดูวิธีทำได้ที่ Completely Delicious

ฟรุ้ตโซดาปั่น
ส่วนผสม
น้ำส้มคั้น 100 กรัม
น้ำมะนาว 50 กรัม
น้ำสับปะรด 100 กรัม
น้ำเกรฟฟรุต 50 กรัม
น้ำเชื่อมทับทิม 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ เอาเฉพาะไข่ขาว 1 ฟอง
โซดา 1/2  ขวด
น้ำแข็งป่น 2 ถ้วยตวง
ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ในเครื่องปั่น ยกเว้นโซดา แล้วปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้วไม่ต้องเต็มใส่ประมาณ ? แก้ว
2. รินโซดาลงไปจนเต็มแก้ว ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟฟรุ้ตโซดาปั่นทันที

น้ำว่านหางจระเข้ปั่น


ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ในเนื้อว่านนั้นจะมีสารอะโลอินและอะโลอิซิน ซึ่งเป็นยาระบาย ช่วยป้องกันมะเร็ง สมานแผลในกระเพาะ ฆ่าเชื้อไวรัสสาเหตุของหวัด  ช่วยป้องกันโรคทางเดินหายใจอักเสบ และช่วยสลายสารพิษ จึงช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของตับที่อักเสบได้
การสังเกตว่านหางจระเข้ที่ดีนั้น ควรมีใบอ้วนหนา ช่วงโคนใบกว้างใหญ่ ป้อมสั้น มีกระสีขาวน้อย เปลือกหนาแข็ง เนื้อวุ้นจะแข็งไม่เละ และเมื่อซื้อหรือตัดทันทีแล้ว ต้องใช้ทันที เนื่องจากสารสำคัญในเนื้อวุ้นจะลดสรรพคุณลงเรื่อยๆ
สูตรน้ำว่านหางจระเข้ จะมีให้เลือกทำ 2 แบบคือ แบบปั่นและแบบไม่ปั่น เลือกทำได้ตามต้องการ

น้ำว่านหางจระเข้
ส่วนผสม
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 2 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ
3. เติมน้ำลงในหม้อ ใส่เนื้อว่านที่หั่นแล้วลงไป
4. ตั้งไฟกลางจนเดือดนานประมาณ 20 นาที แล้วใส่น้ำตาลทรายแดง ทิ้งไว้จนเดือดอีกครั้ง
5. ปิดไฟ ยกลง พักไว้ให้เย็น
6. รินน้ำว่านหางจระเข้ใส่แก้ว ดื่มได้

น้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ใบว่านหางจระเข้ 1 ใบ
2. น้ำ 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำว่านหางจระเข้ปั่น
1. ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด แล้วใช้มีดคม ๆปอกเปลือกออก ล้างหลายๆ ครั้งจนเมือกและยางสีเหลืองออกหมด
2. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ดื่มทันที หรือจะใส่น้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็นก็ได้ค่ะ
2. หั่นเป็นชิ้นบางๆ

สมูทตี้ Mint Yogurt


ส่วนผสม
1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
2. ใบสะระแหน่ 15 ใบ
3. โซดา 1/2 ขวด
4. น้ำแข็งป่น 1 1/2 ถ้วยตวง
5. เกลือป่น 1/4ช้อนชา

วิธีทำสมูทตี้ Mint Yogurt
1. นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ในเครื่องปั่น ยกเว้นโซดา แล้วปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้วไม่ต้องเต็มใส่ประมาณ 3/4  แก้ว
2. รินโซดาลงไปจนเต็มแก้ว ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เสิร์ฟทันที

                        วิธีทำช็อคโกแลตลาวาเค้ก





อุปกรณ์
-แป้งอเนกประสงค์ (All purpose flour) 1/4 ถ้วย
-ไข่ 4 ฟอง
-น้ำตาล 1/2 ถ้วย (ปรับตามความชอบได้)
-น้ำตาล สำหรับทาถ้วย ramekins
-semi sweet ชอคโกแลต อย่างดี (เราใช้ Lindt 80% cocao) 112 กรัม (1/4 lb)
-เนยจืด 112 กรัม (1/4 lb)
วิธีทำ
1 เตรียมเตาอบ ตั้งอุณหภูมิที่ 400 F or 204 C
2 ทาเนยในขอบและก้นถ้วย ramekins 5 ใบให้ทั่ว อาจใช้ถ้วยแก้วทนความร้อนเล็กๆแทนได้
3 เอาน้ำตาลมากลิ้งในถ้วย ramekins ที่ทาเนยแล้ว ให้ทั่ว (เวลาเอาเค้กออกจะได้ไม่ติดถ้วย)
4 ละลายเนยใน หม้อนึ่ง Double Boiler เราใช้หม้อเติมน้ำ 1สูงนิ้ว ต้มน้ำให้เดือด แล้ววางชามทนไฟบนหม้ออีกที
พอเนยละลายเกือบหมด หักชอคโกแลตลงไป กวนให้ละลายเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน (ไม่ใช้ความร้อนโดยตรงเพราะจะทำให้เนยแยกชั้นกับชอคโกแลต)
5 ผสมแป้ง ไข่ น้ำตาล 1/2ถ้วย ในชาม/ถ้วย/โถ ตีจนเข้ากัน
6 ใส่ 1/3 ของชอคโกแลตที่ละลายแล้ว ในส่วนผสมข้อ 5 (ไม่ใส่ชอคโกแลตจนหมดเพราะความร้อนจะทำให้ส่วนผสมแป้งสุกเป็นก้อน)
ตีให้เข้ากัน นี่เป็นการ warmส่วนผสมแป้ง
7 จากนั้นเทชอคโกแลตที่เหืลอทั้งหมด ตีให้เข้ากัน
8 เกือบเสร็จแล้วว เทส่วนผสมข้อ 7 ลง Ramikins หรือ ถ้วยทนความร้อน ประมาณ 3/4 ของถ้วย
9 เรียงถ้วย ใส่ถาดอบ Baking Sheet (จะได้เอาเข้าออก ง่าย) อบ 12 นาที
10 เสร็จแล้ววก็เอาออกมาวางพักซัก 10 นาที (ถ้าทนไม่ไหวกินเลยก็ได้) แล้าก็กินได้เลย

วิธีserve
1 กินในถ้วยก็ได้
2 แคะออกจากถ้วยโดยเอามีดเซาะขอบถ้วย แล้วคว่ำถ้วยลงจาน ถ้าทาเนย+โรยน้ำตาลที่ถ้วยดีๆ เค้กจะหลุดจากถ้วยอย่างง่ายดาย
serve กับ Vanilla ice cream + Whip cream
วิธีเก็บ
เอา plastic wrap ปิดแต่ละถ้วย เก็บเข้าตู้เย็น
เวลาจะกิน ก็ เอาเข้าMicrowave 25 วินาที

วิดีโอ YouTube

                                            รวมสูตรน้ำเต้าหู้ (นมถั่วเหลือง)


ส่วนผสมทำนมถั่วเหลือง :

สูตร 1
ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายขาวละเอียด 360 กรัม
เกลือเสริมไอโอดีน ป่น 1 ช้อนชา
น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )

สูตร 2
ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายขาวละเอียด 500-600 กรัม
เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1 ช้อนชา
น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )

สูตร 3
ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม
เกลือเสริมไอโอดีนป่น 2 ช้อนชา
น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 4
ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม
เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )

สูตรทุกสูตรคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ปริมาณเกลือและน้ำตาลเท่านั้น

ถ้าจะให้มีรสมันเพิ่ม เวลาปั่นให้ใส่ถั่วลิสงคั่ว 1 กำมือ ปั่นรวมกัน
สีน้ำนมจะออกสีเหลือง หรือ อาจใช้นมข้น ประมาณครึ่งกระป๋องใส่ลงไป
ก็จะได้น้ำนมถั่วเหลืองที่มีสีขาวชวนรับประทาน มีกลิ่นหอมและมีรสมัน เหมือนนมสด

ขั้นตอนและวิธีทำ :
1.นำถั่วเหลือง( ใช้ชนิดถั่วเหลืองทั้งเมล็ด ไม่ใช้ถั่วเหลืองซีก) 
มาคัดเอาสิ่งสกปรก กรวดทรายดิน ออกให้หมด
ล้างให้สะอาด ( เมล็ดที่เสียจะลอยน้ำ คัดทิ้ง ) เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้

2.นำถั่วเหลืองไปคั่วให้หอม แล้วนำถั่วเหลืองที่คั่วไปแช่ในน้ำสะอาด 
จะใช้วิธีแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3 ชั่วโมงก็ได้ตามสะดวก
จากนั้นนำมายีเอาเปลือกออก ล้างให้สะอาด เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้ 
การแช่ถั่วเหลืองไม่ควรนานเกิน 2-3 ชั่วโมง
ให้สังเกตว่าพอเม็ดถั่วเริ่มพอง อมน้ำเต็มที่ก็จะใช้ได้ 
ถ้าเราแช่เมล็ดถั่วเหลืองในน้ำนานเกินไปจะทำให้
โปรตีนในถั่วจับตัวกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือ โดยให้น้ำท่วมประมาณ 3 เท่าของถั่วเหลือง 
แช่นานประมาณ 5 - 8 ชั่วโมง

3.แบ่งถั่วเหลืองพอประมาณใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วใส่น้ำให้พอปริ่มๆถั่วเหลือง
ปั่นให้ละเอียด แบ่งปั่นไปเรื่อยๆ หรือ บดด้วยโม่หิน จนถั่วเหลืองหมด

4.ตวงน้ำ 2 ลิตร นำไปต้มจนเดือดจัด

5.ระหว่างที่รอ ให้เทน้ำถั่วเหลืองที่ปั่นไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น 
นำน้ำที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน น้ำจะอุ่นพอดี 
คั้นเอาแต่น้ำนมถั่วเหลืองแบบคั้นกะทิ แล้วแยกกรองกากออกมา

6.เทน้ำถั่วเหลืองที่คั้นไว้ไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อ โดยกรองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น
เสร็จแล้วเติมน้ำส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน

5.ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ( ถ้าต้องการใช้กลิ่นใบเตยดับกลิ่นสาปถั่วเหลือง ใส่ใบเตยตอนนี้ ) 
ต้มด้วยไฟกลาง พอเริ่มจะเดือด ก็ใช้ไฟอ่อน คุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 90 องศาเซลเชียส 
( น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเชียส )
คือต้มให้น้ำถั่วเหลืองร้อนแต่ไม่เดือด ขั้นตอนในการต้มใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
ในขณะต้มต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะไหม้ได้ง่าย 
พอชิมดูว่าถั่วเหลืองสุกแล้วใส่เกลือครึ่งช้อนชา
เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดไฟหรือยกลง เติมน้ำตาลและเกลือป่น ชิมรสตามชอบ

การทำน้ำเชื่อมเข้มข้น 
โดยใช้น้ำตาลทรายเคี่ยวกับน้ำสะอาด ในสัดส่วน 2:1 
ตั้งไฟพอให้น้ำตาลละลายหมดก็พอ ไม่ต้องเคี่ยวนาน มิฉะนั้นสีน้ำเชื่อมจะดำไม่น่าทาน

เครื่องปรุงที่ใส่ในน้ำเต้าหู้เพื่อแต่งรสเวลาเสริฟ :
ลูกเดือยต้มสุก สาคูเม็ดใหญ่ต้มสุก เม็ดแมงลักละลายน้ำจนพอง วุ้นหั่นเป็นเส้นยาว 
ลูกบัวต้ม ถั่วแดง ฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้นๆ น้ำเชื่อม ฟรุทสลัด .... ฯลฯ 
(อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่อยากใส่อะไรก็ไม่ต้องใส่ ...ตามใจชอบ )งาอบหรือคั่วโรยหน้า

เวลาเสริฟ : ใส่น้ำเชื่อมและเครื่องปรุงต่างๆ ตามที่ผู้รับประทานต้องการ

หมายเหตุ :
ส่วนประกอบทางโภชนาการของนมถั่วเหลือง 250 มิลลิลิตร
น้ำ 217 กรัม โปรตีน 6.3 กรัม น้ำตาลแลคโตส 22.5 กรัม 
ไขมัน 2.8 กรัม แคลเซียม 48 กรัม
ให้พลังงาน 135 กิโลแคลอรี่ ( ข้อมูลจาก กองโภชนาการ กรมอนามัย )

นมถั่วเหลืองที่ทำ หากแช่เก็บไว้ในตู้เย็น 
สามารถเก็บได้ประมาณ 5 วัน ถ้าขั้นตอนการทำสะอาดพอ

เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ถ้าไม่ต้องการใส่น้ำตาลก็ไม่ต้องใส่
ถ้าต้องการเพิ่มกลิ่นใบเตย ก็ใช้ ใบเตยล้างสะอาด 5 ใบตัดเป็นท่อน ๆ ต่อ ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
ถ้าต้องการแต่งสีก็เติมสีอาหารจากธรรมชาติ อาทิเช่น
สีเหลือง จาก ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย หญ้าฝรั่น ดอกคำฝอย 
ลูกพูด ดอกกรรณิการ์ ฟักทอง มันเทศ แครอท
สีเขียว จาก ใบเตยหอม ใบย่านางพริกเขียว และ ใบคะน้า
สีแดง จากครั่ง มะเขือเทศสุก , กระเจี๊ยบ ,มะละกอ ,ถั่วแดง และพริกแดง
สีน้ำเงิน จากดอกอัญชัน
สีม่วง จาก ดอกอัญชันสีน้ำเงินผสมมะนาว , ข้าวเหนียวดำ และถั่วดำ
สีแสด จากเมล็ดของผลคำแสด เป็นต้น
ส่วนการแต่งกลิ่นก็มีกลิ่นสำเร็จขายอยู่ทั่วไป